รีวิวเที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี ออสเตรีย สโลวีเนีย ตอนที่ 1 : เมืองเซนต์ กิลเกน (St.Gilgen), เมืองเซล แอม เซ่ (Zell am see), เมืองคาพรุน (Kaprun)

การวางแผนจะไปเที่ยวแต่ละทริปก็คงมีเหตุผลต่าง ๆ กันไป ไม่เคยไปน่าจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ มีคนแนะนำมาว่าเมืองนี้สวยเมืองนั้นสวย หรืออยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ ไปดูหิมะที่โน่น เหตุผลมีเยอะแยะมากมาย ก็ไปเที่ยวเน๊อะ ใคร ๆ ก็อยากไป ส่วนป้าแล้วทริปนี้เกิดขึ้นมาได้ด้วยรูปนี้เพียงรูปเดียวค่ะด้วยความที่อยากหาที่เที่ยวแบบธรรมชาติ ๆ บ้าง ก็เลยหาข้อมูล ดูรูปในเวบไซต์ไปเรื่อย จนมาเจอรูปนี้เข้า…OMG…อิแม่เจ้า เห็นปุ๊ปคือจะไปที่นี่แหละ ทะเลสาบมิซูริน่า อยู่โดโลไมท์ ที่ไหนว๊า เข้า google map โอเค ๆ ตั้งอยู่ตอนเหนือของอิตาลีติดกับประเทศออสเตรีย ไม่ไกลนิหน่า ออสเตรียคนคุ้นเคยไปกันบ่อย ว่าแล้วส่งรูปไปให้ลูกพี่ มือวางแผนเส้นทาง คุณพี่คะ ทริปหน้าไปโดโลไมท์กันเส้นทาง –> คุณพี่เงียบหายไปพักใหญ่ ๆ กลับมาอธิบายสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า ถ้าจะไปเดินเขา ต้องรอให้หิมะละลายแล้ว ไม่อย่างนั้นพื้นจะลื่น เดินลำบาก ต้องอากาศดี ๆ คือมีแดด ฟ้าใส ฝนน้อย ช่วงกลางวันอากาศก็จะร้อนหน่อย อุณหภูมิช่วงฤดูใบไม้ผลิเดือนมิถุนายนที่ยุโรปก็ราว ๆ 25 องศา++ แล้ว แหม..อยู่บ้านเราก็เหมือนอยู่ห้องแอร์นั่นแหละ พยักหน้าหงึก ๆ จัดไปเถอะ อยากจะไปแว้วววว

การเดินทาง –> ทีนี้ก็มาต่อกันว่าแล้วจะเช่ารถที่ไหน เช่ารถขับเที่ยวเองที่ยุโรปคือไม่มีในแพลนแน่ ๆ คุณพี่บอกว่าเค้าไปเที่ยวด้วย เรื่องต้องไปขับรถเองตัดทิ้งได้เลย เพราะฉะนั้นก็ต้องเช่ารถพร้อมคนขับ จะเริ่มทริปที่เวียนนา ออสเตรียหรือมิวนิค เยอรมนีก็ได้อยู่ อยากได้คนคุ้นเคย เส้นทางใหม่ ๆ แบบนี้ ว่าแล้วก็ฮาโยว ๆๆ น้องอ้อม (Europe for Thai) ป้าว่าจะไปโดโลไมท์ เดี๋ยวทำเส้นทางเสร็จแล้วจะส่งให้ดูนะ ล็อครถกับคนขับพี่อีโว่ให้ก่อน ช่วงกลางเดือนมิถุนายน…ได้ค่า ๆๆ 

สายการบิน –> จริง ๆ แล้วลงมิวนิค เยอรมนีก็ใกล้นะแต่เอาสะดวกคนขับ มารับที่เวียนนา ออสเตรียก็ใกล้ดี กริ๊งกร๊างหาสมาชิกร่วมทาง มีบางคนอยากไปฮังการีด้วย ไม่ได้ไปนานแล้ว อืมมม…แต่ป้านี่ไปบ่อยทีเดียวเชียว โอเชร ๆ รวม ๆ เข้าไปค่ะ สรุปว่าไป EVA Air บินตรงเข้า-ออกเวียนนาเหมือนเดิม

วีซ่าเชงเก้น –> ระหว่างออสเตรียกับอิตาลี ดูแล้วยื่นเอกสารขอที่ออสเตรียน่าจะง่ายกว่าดังนั้นเราเลยต้องทำแพลนให้อยู่ออสเตรียนานที่สุด หลายคนมี Multiple Visa อยู่แล้ว สบายไปไม่ต้องขอ ส่วนคนที่ไม่มีก็รอเอกสารใบจองโรงแรม ใบจองรถ Itinerary ประกันการเดินทาง หลักฐานการงาน หลักฐานการเงิน ประวัติเก่า ๆ ที่เคยเดินทาง ไม่ยากค่ะ 

เตรียมตัวก่อนเดินทาง –> ปกติไม่ค่อยได้ไปเที่ยวหน้าร้อน ทริปนี้มีไปเดินเขาด้วย จากเสื้อหนาวและถุงมือเลยต้องกลายเป็นเสื้อคลุม หมวก รองเท้ากันลื่น แว่นดำ เป้ sunblock โผล่มาแทน 

สรุปทริปนี้เดินทางช่วง 13-26 มิถุนายน 2560 เที่ยวเต็ม ๆ 13 วัน 12 คืน (ไม่นับวันเดินทาง) ไปหลายประเทศมากกกก ทั้งออสเตรีย เยอรมนี อิตาลี สโลวีเนีย สโลวาเกีย ฮังการี….ไปดูกันค่ะว่าจะเป็นชะโงกทัวร์มั้ยน๊า 

รีวิวนี้ยาวหน่อย รูปเยอะด้วย นี่ขนาดเลือกแล้วเลือกอีก ค่อย ๆ อ่านกันไปนะคะ แบ่งเป็นทั้งหมด 6 ตอน

ตอนที่ 1 : เมืองเซนต์ กิลเกน (St.Gilgen), เมืองเซล แอม เซ่ (Zell am see), เมืองคาพรุน (Kaprun)

ตอนที่ 2 : ภูเขา Grosßglockner, น้ำตก Krimml, เมือง Mittenwald, เมือง Fulpmes –>  https://dreamfirstsky.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b9%8c-%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%aa/

ตอนที่ 3 : เมืองออร์ติเซ่ (Ortesei), Alpe de Suisi, Seceda, ทะเลสาบ Caressa, Sass Pordoiเมืองออร์ติเซ่ (Ortesei) –> https://dreamfirstsky.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b9%8c-%e0%b8%ad%e0%b8%b4-2/

ตอนที่ 4 : ทะเลสาบบรายเอส (Lago di Braise) , ทะเลสาบมิซูริน่า (Lago di Mizurina), เตร ซิเม่ (Tre Cime), เมืองคอร์ติน่า ดอมปาซโซ่ (Cortina d’Ampezzo) –> https://dreamfirstsky.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b9%8c-%e0%b8%ad%e0%b8%b4-3/

ตอนที่ 5 : เบลด (Bled) และเมืองกราซ (Graz) –> https://dreamfirstsky.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%94%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%95%e0%b9%8c-%e0%b8%ad%e0%b8%b4-4/ 

ตอนที่ 6 : McArthurglen Parndorf Outlet, บราติสลาว่า สโลวาเกียและบูดาเปสต์ ฮังการี –> https://dreamfirsttrip.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad-4/ 

จากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลาตีสาม ของวันที่ 13 มิถุนายน ก็ว๊าบมาถึงสนามบินเวียนนา วันเดียวกัน เวลา 09.50 น. เคยรีวิวขั้นตอนการเข้าสนามบินเวียนนาแล้ว ไปดูได้ที่รีวิวยุโรปตะวันออก ตอนที่ 1 ค่ะ https://dreamfirsttrip.wordpress.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%9b%e0%b8%95%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad-2/ เดินมาจุดจอดรถบัสด้านนอก พี่อีโว่ที่เป็นกัปตันขับรถรอเราอยู่แล้ว ทริปนี้เดินทางด้วยรถบัส 20 ที่นั่ง มีรถพ่วงท้ายคันจิ๋วไว้ใส่กระเป๋าอยู่ด้านหลัง ไปกัน 16 คน สบาย ๆ ค่ะพร้อมแล้วออกเดินทางกันค่ะ มุ่งหน้าสู่ทางทิศตะวันตกของประเทศออสเตรียไปเมืองเซนต์ กิลเกน (St. Gilgen) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวูล์ฟกัง (Wolfgangsee) ระยะทางประมาณ 310 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ได้พักงีบกันไปก่อน ระหว่างทางได้เวลามื้อเที่ยงพอดี แวะทานอาหารกลางวันกันที่ Landzeit Strengberg จุดพักรถบนทางหลวงนั่งรถต่อค่ะ หลับ ๆ ตื่น ๆ ตื่นมาอีกทีถึงเมืองเซนต์ กิลเกน (St.Gilgen) แล้ว เมืองนี้เป็น 1 ใน 3 เมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบวูล์ฟกัง (Wolfgangsee) ตั้งอยู่ตรงปลายด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบ มีเมืองเซนต์ วูล์ฟกัง (St.Wolfgang) อยู่ตรงกลาง และเมืองสโตรเบลล์ (Strobl) ตั้งอยู่ปลายสุดด้านตะวันออกเฉียงใต้ค่ะ (credit : wolfgangsee.salzkammergut.at)รถจอดส่งเราเรียบร้อย เมืองนี้ไม่ใหญ่ เดี๋ยวไปเดินเล่นกันก่อนที่จะไปเช็คอินที่โรงแรมคืนนี้กันค่ะ บินไฟล์ทกลางคืนมาถึงยุโรปวันแรก จัดไปเบา ๆ ก็พอ ณ ตอนนี้ Low batt แล้ว รูปล่างคือแผนที่เมืองเซนต์ กิลเกน (credit : wolfgangsee.at)เห็นกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา สีสวยน่ารักเชียว แต่เราไม่ขึ้นๆๆ ค่ะ ทริปนี้ยังมีให้ขึ้นอีกหลายที่ อดใจไปก่อนเดินไปชมริมทะเลสาบกันดีกว่า บรรยากาศเงียบสงบ นักท่องเที่ยวเอเชียมีบ้างประปราย ที่มาเป็นกรุ๊ปทัวร์เลยไม่เห็นค่ะ ส่วนมากจะเป็นฝรั่งซะมากกว่าอย่าถามว่าร้อนมั้ย ดูน้องหมาซิ ยังอยากลงไปเล่นน้ำเลยบริเวณริมทะเลสาบ มีร้านอาหาร ร้านไอศครีมอยู่หลายร้านค่ะ วันนี้ขายดีเชียว แดดที่นี่เปรี้ยงได้ใจ แต่ถ้าอยู่ในร่มจริง ๆ ก็ไม่ได้ร้อนมากนะ เอาน่า ๆ เดี๋ยวไปเที่ยวภูเขาคงจะมีไอเย็น ๆ บ้างเน๊อะ  เดินเข้าไปทางตัวเมือง มาถึงบ้านของแม่โมสาร์ทคีตกวีชื่อดัง แอนนา แม่ของโมสาร์ตเกิดที่เมืองนี้และพี่สาวของโมสาร์ทชื่อแนนเนิลหลังจากแต่งงานแล้วก็ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้เช่นกันเดินกันแบบไฮสปีด ส่วนฝรั่งนี่เดินตากแดดกันชิลมาก แดดดี ๆ กับดอกไม้สวย ๆ บานสะพรั่งไปหมดมาถึงศาลาว่าการเมืองเซนต์ กิลเกนกันแล้ว (Rathaus St.Gilgen) ถ้าไม่เห็นป้ายนึกว่าโรงแรมนะเนี่ย หน้าตาคล้าย ๆ กันไปหมด ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นฟาร์ม ได้มีการสร้างศาลาว่าการเมืองขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1914-1916 ออกแบบโดยสถาปนิคชาวเมืองมิวนิค Franz Zell เพื่อเป็นการหาเงินทุนเพิ่มสำหรับการก่อสร้าง ได้มีการเรียกเก็บภาษีเบียร์ ซึ่งแน่นอนว่าถูกเจ้าของโรงแรมต่อต้านอย่างมาก ศาลาว่าการนี้ไม่เคยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเพราะอยู่ในช่วงสงครามโลก ส่วนตรงข้ามคือโรงแรม Gasthof Zur Post เราไม่ได้พักที่นี่ค่ะ ที่พักเรายังต้องไปอีกกกกกกถ้านั่งรถไปไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้ว แต่ๆๆๆ เราไม่นั่งค่ะ เราจะเดินสวย ๆ ลัดเลาะชมวิวทะเลสาบสวย ๆ กันไปวิวสองข้างทาง มีทำไม้กั้นทางเดินเป็นเรื่องเป็นราวถึงแล้วค่ะที่พักเราคืนนี้ Gasthof & Hotel Fürberg am Wolfgangsee ติดริมทะเลสาบ น้ำสีเขียวดีมากกกเช็คอินแล้ว ไปดูห้องพักกันค่ะ ที่เลือกที่นี่เพราะติดริมทะสาบ ทั้งโค้งน้ำนี้เป็นที่ตั้งของโรงแรมนี้ที่เดียว ห้องสวย วิวสวยสมใจ แต่ถ้ามาหน้าร้อนกว่านี้คงจะไม่ไหวเพราะโรงแรมไม่มีแอร์ค่ะ แต่เป็นปกติของโรงแรมส่วนมากในยุโรปที่ไม่มีแอร์เพราะปีนึงอากาศร้อนแค่ไม่กี่เดือน ยังไม่ทันพักเหนื่อยก็ได้เวลาทานอาหาร เย็นนี้ทานกันที่โรงแรมอย่างที่บอกว่าละแวกนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากโรงแรมนี้ กินเสร็จจะได้ขึ้นนอนเลย ง่วงแล้ววววปลาเทร้าท์ย่างทานเสร็จ ฟ้าเริ่มมืด พอเปิดไฟแล้วก็สวยไปอีกแบบ แต่เพลานี้ป้าอยากจะพุ่งไปที่เตียงแล้วอีกตึกของโรงแรม ตั้งอยู่ข้าง ๆ กันวันที่สองของการเดินทาง : ตื่นเช้ามาสดใสกว่าเหมือนวานเยอะ ได้ชาร์จแบตเต็มที่ ไปทานอาหารเช้าแล้วไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะเช้านี้เราจะนั่งเรือจากท่าเรือ Fürberg หน้าโรงแรมไปยังเมืองเซนต์ วูล์ฟกัง (St.Wolfgang) อีกหนึ่งเมืองที่ตั้งอยู่บนทะเลสาบเดียวกันนี้ แล้วรถค่อยไปรับเราหลังจากที่เราทานอาหารกลางวันเสร็จค่ะ เช้านี้ยังพอมีเวลาเหลือไปเดินเล่นริมทะเลสาบกันดีกว่าเดินไปดูโค้งน้ำด้านโน้นบ้าง มองไปเห็นโรงแรมที่พักกับรถเราจอดอยู่น้ำใสมาก ถอดรองเท้าแล้วลงเลยค่า เย็นชื่นจายยยยเดินกลับมาหน้าโรงแรม ขอนอนเก้าอี้นี้บ้าง โยกได้ด้วย เพลินเลย มิน่าคิวเต็มตลอดลุกได้แล้วป้า ต้องไปเช็คเอ้าท์ เอากระเป๋าไปเก็บที่รถอีก เดี๋ยวขึ้นเรือม่ายทัน แหม..ท่าเรืออยู่หน้าโรงแรมแค่นี้ ทันอยู่แล้ว เรือกะลังจะเทียบท่าละค่าสำหรับตั๋วเรือเราก็ซื้อกับที่โรงแรมเลย เช็คดูรอบว่าจะขึ้นกี่โมง บ๊ายบาย ๆ มีโอกาสจะมาพักอีกนะคะ ถือว่าเป็น 1 ในโรงแรมที่ชอบที่สุดตลอดการเดินทางขึ้นเรือแล้ว นักท่องเที่ยวเยอะเหมือนกันนะเนี่ย มีให้เลือกแบบนั่งด้านในกับโต้ลมด้านนอก น้ำในทะเลสาบวูล์ฟกังสีเขียวอย่างที่เห็น คนละสีกับที่เมืองฮาล์ลสตัทท์ (Hallstatt) เลยค่ะ ส่วนวิวสองข้างทางมีทั้งบ้าน ทั้งโรงแรม น่าอิจฉาจริงจริ๊งโรงแรมนี้ตั้งเก้าอี้อาบแดดไว้ริมทะเลสาบใกล้ถึงแล้วค่ะ เห็นโบสถ์เมืองเซนต์ วูล์ฟกังมาแต่ไกลขึ้นที่ท่าเรือเซนต์ วูล์ฟกัง มาร์ค (St.Wolfgang markt)  เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศออสเตรีย ตั้งชื่อตามนักบุญวูล์ฟกังแห่งโรเทนเบิร์ก ซึ่งเป็นชาวเยอรมัน มีชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 และได้สร้างโบสถ์เล็ก ๆ ขึ้นที่ริมทะเลสาบแห่งนี้ เมืองนี้ขนาดไม่ใหญ่มาก เดินเล่นได้สบาย ๆ ค่ะ บริเวณหน้าโบสถ์โบสถ์หลังนี้ได้กลายมาเป็นที่แสวงบุญหลังจากที่ได้มีการแต่งตั้งให้เป็นนักบุญวูล์ฟกัง (St.Wolfgang)เมืองเซนต์ วูล์ฟกัง (St.Wolfgang) มีประชากรประมาณ 2,000 คน ริมฝั่งทะเลสาบวูล์ฟกัง (Wolfgangsee) มีความยาว 10.5 กิโลเมตร โรงแรม Weissen Rossl หรือ The White Horse Inns ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ มีรูปปั้นม้าสีขาวบนผนังโรงแรม เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียง ครั้งแรกโด่งดังมาจากโอเปเร็ตต้าหรือละครเพลงตลก โดย Dr.Ralph Benatzdky และคณะ นักประพันธ์ชื่อดังชาวออสเตรีย ต่อมาโอเปเร็ตต้าเรื่องนี้ได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์บ้าง ละครบ้าง The White Horse หรือม้าสีขาว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพนักงานสาวเสิร์ฟไปหลงรักเจ้าของโรงแรม  โรงแรมนี้เป็นธุรกิจครอบครัวดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1712บรรยากาศใกล้ ๆ โรงแรมเดินไปจุดชมวิวกันค่ะ ผ่านร้านขายของ ร้านผลไม้จุดชมวิวด้านบน

ลงมาเดินเล่นในเมืองกันต่อค่ะ ผ่านบ้านเรือนสีสันสดใสจัตุรัสมาร์เก็ต สแควร์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกมากมายมื้อกลางวัน ทานกันที่ Gasthof Weisser Bär มื้อนี้ทานแซลมอนย่าง อิ่มแล้ว เดินไปที่จอดรถ ผ่านโรงแรม Peter โรงแรมนี้เคยมาพักครั้งหนึ่ง วิวสวยงามดีมากค่ะ เผื่อใครมีแพลนมาพักที่เมืองนี้เอารูปห้องพักกับวิวมาฝากพิจารณาส่วนเราตอนนี้ก็ขึ้นรถต่อไปเมืองเซล แอม เซ่ (Zell am see) กันต่อค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 02.30 ชั่วโมง เมืองเซล แอม เซ่ (Zell am see) เป็นเมืองตากอากาศตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซล (Zell)  ในช่วงฤดูร้อนนักท่องเที่ยวก็จะมาพักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเดินเขา พายเรือ ปั่นจักรยาน ส่วนฤดูหนาวจะเป็นที่พักสำหรับคนที่มาเล่นสกีตามภูเขารอบ ๆ เมืองนี้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวอาหรับจากตะวันออกกลาง ต้องบอกว่าเยอะมากจริง มีร้านอาหารแขกโดยเฉพาะโรงแรมแกรนด์ชื่อดัง แต่เราไม่ได้พักที่นี่ค่ะ คืนนี้จะไปพักเมืองข้าง ๆ ไม่ไกลจากนี้  ทะเลสาบเซลเดินเล่นกันต่อ บังเอิญมาเจองานเต้นรำเล็ก ๆ น่ารักดีค่ะ ส่วนในเมืองมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตครบถ้วนนั่งรถต่อไปอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่พักเราคืนนี้ Alpenparks Hotel & Apartment Orgler ที่เมืองคาพรุน (Kaprun) เป็นอีกหนึ่งเมืองตากอากาศยอดนิยม ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาสูงที่พักแบ่งเป็นสัดส่วน ห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว ส่วนร้านอาหารที่โรงแรมก็ตกแต่งได้น่ารักทานข้าวเย็นกันเสร็จแล้ว ออกไปเดินเล่นกันดีกว่าค่ะ มีภูเขาสูงปกคลุมไปด้วยหิมะล้อมรอบเมือง

รีวิวตอนต่อไป –> รีวิวเที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี ออสเตรีย สโลวีเนีย ตอนที่ 2 : กรอสกล็อคเนอร์ (Grossglockner) ,น้ำตกคริมเมิล (Krimml), เมืองมิทเทินวาลด์ (Mittenwald), เมืองฟัลม์เมส (Fulpmes)

รีวิวเที่ยวโดโลไมต์ อิตาลี ออสเตรีย สโลวีเนีย ตอนที่ 2 : Grosßglockner, น้ำตก Krimml, เมือง Mittenwald, เมือง Fulpmes